ผู้ป่วยที่มีอาการหายใจหอบและมีเสียงฮื้ด (Stridor) ซึ่งแสดงว่ามีภาวะอุดกั้นของทางเดินหายใจส่วนต้น นอกจากโรคนี้แล้ว ยังอาจเกิดจากคอตีบ สำลักสิ่งแปลกปลอม กล่องเสียงบวมจากการแพ้ สปาสโมดิกครู้ป ฝากกล่องเสียงอักเสบเฉียบพลัน 2. เด็กที่เคยเป็นโรคครู้ปชนิดรุนแรง บางรายอาจกลายเป็นโรคภูมิแพ้หรือโรคหืดเมื่อโตขึ้น การรักษา 1. ถ้ามีอาการเพียงเล็กน้อย คือ มีไข้ ไอเสียงก้องมีเสียงอื้ดเป็นบางครั้งเฉพาะเวลาร้องไห้หรือเคลื่อนไหวร่างกาย โดยที่เด็กยังรู้สึกร่าเริง กินได้ ไม่อาเจียน ก็ให้การรักษาตามอาการ (เช่น ให้ยาลดไข้ - พาราเซตามอล) ให้เด็กดื่มน้ำมากๆ หลีกเลี่ยงควันบุหรี่ ให้ความชื้นโดยการวางอ่างน้ำไว้ข้างตัวเด็ก ขณะมีอาการกำเริบให้เด็กสูดไอน้ำอุ่น เช่น เป็นน้ำอุ่นจากก๊อกน้ำในห้องน้ำขณะปิดประตูห้องน้ำ แล้วนำเด็กเข้าไปอยู่ในนั้น นานอย่างน้อย 10 นาที หรือใช้ผ้าขนหนูจุ่มน้ำอุ่นให้หมาด ๆ แล้วนำมาจ่อใกล้ปากและจมูกเด็ก สังเกตอาการอย่างใกล้ชิดทุกวัน ส่วนใหญ่มักจะหายไต้ภายใน 3-7 วัน 2. ถ้ามีอาการเสียงฮื้ดขณะพักอยู่นิ่ง ๆ หายใจลำบาก ซี่โครงและลิ้นปี่บุ๋ม ปากเขียว เล็บเขียว กลืนลำบาก กินไม่ได้ มีภาวะขาดน้ำ กระสับกระส่ายหรือซึม ควรส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว มักจะวินิจฉัยจากอาการเป็นหลัก บางครั้งอาจต้องตรวจพิเศษ เช่น เอกซเรย์ ใช้กล้องส่องตรวจกล่องเสียง (laryngoscopy) ตรวจหาเชื้อก่อโรค ตรวจเลือดเป็นต้น การรักษา ในรายที่มีอาการรุนแรง จำเป็นต้องรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล ให้การรักษาโดยให้ออกซิเจนพ่นฝอยละอองน้ำ ให้ความชื้น ให้ยาลดการอักเสบและการบวมของเยื่อบุกล่องเสียง ได้แก่ ยาสตีรอยด์ ชนิดใดชนิดหนึ่งดังนี้ เดกซาเมทาโชน ขนาด 0.
โรคครูป... อันตรายที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม Posted by: Phyathai Hospital Review: ★ แพทย์
จะอ่านบทความ จะเก็บบทความไว้อ่านทีหลัง หรือจะแชร์บทความให้คนที่เราเป็นห่วง ก็ง่ายกว่าเดิมเยอะ คนอื่นไม่ต้องเสียใจ ให้เราส่ง sms แจ้งเตือนคุณเมื่อแอปพร้อม ได้เลย! ขอบคุณที่วางใจ ทุกเรื่องสุขภาพอุ่นใจ ให้ HonestDocs (ออเนสด็อกส์) คุณหมอมือถือ ดูแลคุณ ❤️
6 มก. /กก. ฉีด เข้ากล้ามครั้งเดียว หรือให้กินขนาด 0. 15 มก. ครั้งเดียว (ขนาดยาทั้งหมดไม่ควรเกิน 10 มก. /ครั้ง) เพร็ดนิโซโลนให้กินขนาด 1 มก. ทุก 12 ชั่วโมง (ไม่ควรเกิน 60 มก. /วัน) จนกระทั่ง 24 ชั่วโมงหลังจากอาการดีขึ้นแล้วหรือถอดท่อช่วยหายใจได้แล้ว ใช้สตีรอยด์ชนิดพ่น (เช่น budosenide) แทนชนิดกินหรือฉีด นอกจากนี้ยังอาจให้ยาอะดรีนาลินชนิดพ่น (nebulized adrenaline) ส่วนยาปฏิชีวนะจะให้เฉพาะในรายที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ในรายที่หายใจลำบาก ปากเขียว มีภาวะขาดออกซิเจน จำเป็นต้องใส่ท่อหายใจและใช้เครื่องช่วยหายใจ ผลการรักษา ส่วนใหญ่มักจะหายได้เป็นปกติ มีส่วนน้อยที่อาจมีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง และมีอัตราตายต่ำมาก การป้องกัน ปฏิบัติเช่นเดียวกับการป้องกันไข้หวัด ที่สำคัญคือ อย่าสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย และหมั่นล้างมือด้วยน้ำกับสบู่