เนื้อหา 1 ภาษาไทย 1. 1 การออกเสียง 1. 2 รากศัพท์ 1 1. 2. 1 คำนาม 1. 1. 1 คำประสม 1. 2 คำสืบทอด 1. 3 รากศัพท์ 2 1. 3.
หนุ่มๆ หลายคนอาจรู้สึกกังวลเรื่องกลิ่นกาย เข้าใจว่าการฉีดน้ำหอมหรือใช้สเปรย์ดับกลิ่นจะสามารถช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับเราได้ ซึ่งมันก็คงจะเป็นอย่างนั้น แต่รู้หรือไม่ว่าแท้จริงแล้วกลิ่นตัวของเราอาจมีประโยชน์มากกว่าที่คิด เพียงแต่มันไม่ได้เป็นผลดีต่อตัวเรา ทว่ามันกลับเป็นผลดีต่อแฟนสาวของเราต่างหาก?!
เป็นคนมีกลิ่นตัวแบบว่ารักแร้เหม็นค่ะ เป็นมาตั้งแต่มัธยมต้น จนตอนนี้ทำงานแล้วค่ะ ปกติใช้เต่าเหยียบโลกทาทุกวัน เราว่ามันก็ระงับกลิ่นได้พอสมควรนะคะ แต่เหงื่อออกเยอะทีไร กลิ่นโผล่ทุกทีเลยค่ะ เสื้อแขนกุดก็ไม่กล้าใส่ กลัวกลิ่นออก ทำให้หมดความมั่นใจ เราว่าเราก็อาบน้ำสะอาดและดูแลร่างกายอย่างดีนะคะ พวกอาหารก็ทานปกติ ไม่ได้ชอบทานอาหารที่มีกลิ่นฉุน ขอคำปรึกษาหน่อยนะคะ ว่าจะทำอย่างไรดี มืดแปดด้านจริงๆค่ะ ขอบคุณนะคะ แสดงความคิดเห็น
เลือกอาหารให้เหมาะสม อาหารประเภทที่มีกลิ่นแรง เช่น หัวหอม กระเทียม สะตอ หรือแม้แต่การสูบบุหรี่ก็เป็นสาเหตุของกลิ่นตัวได้ค่ะ เราจึงความลดการกินอาหารและพฤติกรรมสูบบุหรี่ลงเพื่อไม่ให้กลิ่นตัวเพิ่มขึ้น 2. ลองใช้เบคกิ้งโซดา อาบน้ำให้สะอาด แล้วลองใช้เบคกิ้งโซดานำมาผสมน้ำให้พอข้นเป็นเนื้อครีม จากนั้นทาไปตามจุดต่างๆ เช่น รักแร้ ข้อพับแขนและขา ซอกคอ ซอกนิ้วเท้า ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด ทำ 2-3 วันต่อสัปดาห์ค่ะ 3. อย่าขัดผิวบ่อย การขัดผิวนั้นถือเป็นการทำความสะอาดผิวอย่างหนึ่งก็จริง แต่ก็ไม่ควรทำบ่อยจนเกินไปค่ะ เพราะการขัดผิวนั้นจะทำให้แบคทีเรียดีในผิวของเราถูกทำลาย และอาจจะทำให้กลิ่นตัวเพิ่มขึ้นมาได้ค่ะ หากเราเป็นคนชอบขัดตัวก็ให้ระวังอย่าทำบ่อย ทำแค่เพียง 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ก็พอ 4. พยายามอย่าให้เกิดความเครียด ความเครียดเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดกลิ่นตัวและทำให้เหงื่อออกมากได้ หากรู้สึกว่าตนเองมีกลิ่นตัวจากสาเหตุนี้ก็ลองหาทางลดความเครียดด้วยการหากิจกรรมเพื่อพักผ่อน เช่น ดูหนัง อ่อนหนังสือ ฟังเพลง หรือหากรู้สึกว่าตนเองไม่สามารถลดความเครียดด้วยวิธีดังกล่าวได้แล้ว อาจลองปรึกาาแพทย์เพื่อหาวิธีรักษาต่อไปค่ะ 5.
ใส่ชุดชั้นในที่ทำจาก 'ผ้าฝ้าย' ที่ระบายเหงื่อได้ดี ร่างกายชื้นเหงื่อมาทั้งวัน ถ้ายิ่งใส่เสื้อผ้าหรือชุดชั้นในที่ผ้าหนา ผ้าหนัก ไม่ระบายอากาศ ตัวก็เปียก น้องสาวของเราก็พลอยจะมีกลิ่นฉุน อับชื้นไปด้วย หนักเข้าก็อาจจะติดเชื้อได้! อย่างน้อยก็ควรใส่ชุดชั้นใน กางเกงในที่ทำจาก ' ผ้าฝ้าย ' ที่เนื้อเบาสบาย #ให้น้องได้หายใจบ้าง ถ้าไม่อยากใส่กางเกงในผ้าฝ้ายทั้งตัว เลือกที่เป็นผ้าฝ้ายเฉพาะส่วนเป้าก็ได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าช่วงบั้นท้ายก็จะเหงื่อชุ่มนะ... อันนี้ก็แล้วแต่การตัดสินใจของสาวๆ ค่ะ 6. ลดอารมณ์เครียด หดหู่ โมโห หงุดหงิด อาจดูไม่ค่อยเกี่ยว แต่อารมณ์ของสาวๆ ก็มีผลต่อร่างกายนะคะ ถ้าเธอเครียด โกรธ โมโห ความดันเลือด อัตราการเต้นของหัวใจ และอุณหภูมิในร่างกายจะพุ่งสูงขึ้น ทำให้ตัวร้อนขึ้น กระตุ้นให้เกิดเหงื่อได้! หากไม่อยากตัวเหม็นเร็ว ก็ต้องเครียดให้น้อยลง เราเข้าใจว่าอากาศร้อนๆ จะให้อารมณ์ดีทั้งวันก็เป็นไปได้ยาก ( เราก็ทำไม่ได้... ) แต่เราแก้ไขได้ด้วยการออกไปเจอแดดให้น้อยที่สุด หลบเข้าห้องแอร์ หรือห้องที่มีอากาศถ่ายเท ทำกิจกรรมที่ชอบ ปล่อยวาง มองโลกในแง่บวกเข้าไว้ เท่านี้อารมณ์ก็ดีขึ้น ตัวก็หอมขึ้นแล้ว 7.
ขอบอกว่าทุกวันนี้เราสามารถหาซื้อสารส้มได้ง่ายมากค่ะและไม่จำเป็นต้องซื้อเป็นก้อนใหญ่ด้วย เพราะเค้ามีสารส้มขนาดเดียวกับโรลออน พกพาง่าย มาในแพ็กเกจเจ๋งๆ ใช้งานสะดวก และที่สำคัญคือหาซื้อได้ง่ายทั้งร้านสะดวกซื้อใกล้บ้านหรือแม้แต่ช่องทางออนไลน์ค่ะ เลือกซื้อสารส้มพร้อมใช้ผ่าน Lazada ที่มีให้เลือกเยอะกว่าแถมยังมีดีลส่วนลดและเงินคืนเมื่อช้อปผ่าน ShopBack ช้อป Lazada ผ่าน ShopBack คลิก! การเลือกวิธีดับกลิ่นตัวผู้หญิงไม่ใช่แค่ทาโรลออนหรือฉีดน้ำหอมแล้วก็จบนะคะ แต่เราต้องดูสาเหตุด้วยว่าที่เรามีกลิ่นไม่พึงประสงค์นั้นเกิดจากอะไรเพื่อเลือกวิธีแก้ให้ตรงจุด เพราะไม่อย่างนั้นต่อให้ใช้โรลออนจนหมดขวดก็ไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องกลิ่นให้เราได้แน่นอน ดังนั้นสาวๆ อย่าลืมสังเกตก่อนเสมอนะคะว่าปัญหากลิ่นกายของเราเกิดจากอะไร จากนั้นจึงเลือกวิธีดับกลิ่นที่เหมาะกับเรามากที่สุด ส่วนใครลองนำวิธีแก้ปัญหาทั้ง 7 ข้อไปใช้แล้วได้ผลยังไงบ้าง ลองมาแชร์ผลลัพธ์กับ ShopBack Blog กันบ้างนะคะ ที่มาอ้างอิง:,
หาซื้อ 'น้ำหอมลูกกลิ้งไซส์พกพา' เติมกลิ่นหอมระหว่างวัน ถ้าโลชั่นกับสเปรย์น้ำหอมยังไม่พอ ชีวิตอยู่กลางแจ้งทั้งวัน กลัวกลิ่นหายช่วงเที่ยงๆ บ่ายๆ เราก็ขอเสนอ ' น้ำหอมลูกกลิ้ง ' ให้สาวๆ พกติดตัวระหว่างวันค่ะ ขนาดเล็กใส่กระเป๋าง่าย ทาก็ง่าย ที่สำคัญราคาถูกกว่าน้ำหอมขวดใหญ่ ( ที่พกไม่ได้และแพงเวอร์) อีกด้วย -w-b การเติมน้ำหอม จะทำให้เธอรู้สึกสดชื่น สดใสจากวันที่เหนื่อยล้าได้ แค่ทาข้อพับมือ ข้อพับขา หลังใบหู ก็หอมฟุ้งได้แล้วทั้งวัน ถ้าวัยรุ่นคนไหนยังเรียนอยู่ งบน้อย ก็มีสเปรย์น้ำหอมในร้านสะดวกซื้อและซุปเปอร์ ที่กลิ่นก็หอม และราคาเป็นมิตรให้เลือกค่ะ 4. หลีกเลี่ยงการกินอาหารกลิ่นแรงๆ เพราะกลิ่นจะติดตัวทั้งวัน! ฉีดน้ำหอมฟุ้ง เท้าหอม แต่กินกระเทียม สะตอ ของเผ็ดๆ ก็ไม่สามารถตัวหอมขึ้นมาได้หรอกนะคะซิส! นั่นเพราะอาหารกลิ่นแรงๆ เมื่อกินเข้าไปแล้วจะส่งกลิ่นผ่านทั้งกลิ่นตัว กลิ่นกาย ส่วนของเผ็ดก็ทำให้เหงื่อออก ก่อเกิดให้ตัวเหม็นกว่าเดิม -_-''' เธอลองคิดภาพว่าตัวเองมีกลิ่นใต้วงแขน แล้ววันนั้นไปกินส้มตำใส่กระเทียมแบบจัดเต็มมาสิ อื้มหืม.. อวสานอาหารเย็นเวอร์ๆ ดังนั้นเลี่ยงไปก่อนในช่วงหน้าร้อนนี้นะคะ ตัวจะได้หอมๆ 5.
รับรองว่าใช้ได้จริง ไม่จ้อจี้แน่นอนจ้า ไปค่ะ ไปอ่านกันเล้ย! 1. ต้องใส่น้ำหอม 'สองชั้น' ( โลชั่นน้ำหอม > สเปรย์น้ำหอม) กฎข้อแรก... ถ้าอยากตัวหอมฟรุ้งฟริ้งทั้งวันในเมืองร้อน ที่เหงื่อพร้อมจะชะล้างน้ำหอมออกไปทุกนาทีแล้วล่ะก็ เธอต้องใส่น้ำหอม ' สองชั้น ' ค่ะ สองชั้นที่ว่า ไม่ใช่การฉีดน้ำหอมเพิ่มสองเท่านะคะซิส จากหอมจะฉุนกึ๊กแทน! แต่หมายถึงว่า เธอต้องใช้สกินแคร์ช่วยอีกทาง! เราแนะนำให้สาวๆ เลือกกลิ่นน้ำหอมที่ชอบก่อน แนะนำเป็นกลิ่นผลไม้ ฟรุตตี้ๆ หรือดอกไม้แบบสดชื่นหน่อย ( ถ้าเป็นกลิ่นวานิลลา ขนมๆ จะค่อนข้างเวียนหัว) แล้วหาโลชั่น หรือบอดี้บัตเตอร์ที่กลิ่นเดียวกัน *แนะนำซื้อเป็นเซ็ตง่ายสุด เช่น เซ็ตของแบรนด์ Victoria's Secret หรือ Bath and body works เป็นต้น* ทาโลชั่นให้ทั่วผิวกายก่อน แล้วฉีดน้ำหอมทับอีกรอบ ( เลือกเป็น Fragrance Mist จะรู้สึกเบาสบายกว่าน้ำหอมแท้อย่าง eau de parfum ที่เหมาะกับการฉีดหน้าหนาวมากกว่า) เท่านี้ก็ตัวหอมได้ตลอดวันแล้วล่ะค่ะ ^_^ 2. ใส่รองเท้าที่ระบายอากาศ และรักษาสุขอนามัยของ 'เท้า' อยู่เสมอ อยากตัวหอม เท้าจะเหม็นไม่ได้เด้อ เป็นผู้หญิงสวยต้องสวยหัวจรดเท้านาจา! รักษาสุขภาพเท้าให้ดี ด้วยการเลือกใส่รองเท้าที่ระบายอากาศได้ดีในหน้าร้อน เช่น รองเท้าแตะ รองเท้าสานที่มีช่องต่างๆ มากมาย โรยแป้งเด็กกลิ่นหอมๆ ก็ช่วยดับกลิ่น และลดเหงื่อได้ ช่วยให้รองเท้าไม่เหนียวจากเหงื่อด้วยนะ นอกจากรองเท้าดีๆ แล้ว ก็ต้องรักษาความสะอาดของเท้าด้วยค่ะ ไม่ต้องถึงกับหามาส์กเท้าแพงๆ มาพอก แค่ล้างเท้าให้สะอาดทุกวันด้วยสบู่ที่ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ฆ่าเชื้อรา เท่านี้ก็แก้ปัญหาเท้าเหม็นได้ชะงัดเลยล่ะ 3.